ต้มข่าไก่หรือบางพื้นที่จะเรียกแกงข่าไก่เป็นอาหารที่มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะคนไทยสมัยก่อนนิยมทำกับข้าวโดยใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็มีการปรับปรุงสูตรมาใช้กะทิกล่อง ปรุงแทนเพราะง่ายต่อการหาซื้อ โดยต้มข่าไก่นั้น จะมีเอกลักษณ์ ที่ความหอมของเครื่องเทศ ที่ใส่เข้าไป และความมัน ข้นและหอมของกะทิที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลัก
โดยหลัก แล้วจะใช้เนื้อไก่เป็นส่วนประกอบหลักจึงได้ชื่อว่า ต้มข่าไก่ น้ำแกงจะมีสีขาวนวนๆ รสชาตินั้นจะมีความหอมและเปรี้ยวโดยจะใส่น้ำมะขามเปียก หรือบางคนจะใช้หัวปลี และใส่เห็ดนางฟ้า รวมถึงใส่เลือดไก่ด้วย จึงทำให้เมนูนี้ ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วน วัตถุดิบและส่วนผสมรวมถึงเครื่องปรุง ข่า ตะไคร้ หอมแดง รากผัดชี ใบมะกรูด น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนูแห้ง พริกขี้หนูสวน พริกจินดาสีแดง เกลือป่น น้ำมะนาวเห็ดนางฟ้า ผักชี ผักชีฝรั่ง เนื้อไก่ ปีกไก่ส่วนบน เลือดไก่ หางกะทิ หัวกะทิ วิธีการทำต้มข่าไก่ให้หอมอร่อ นำเนื้อไก่ที่เตรียมไว้มาต้มให้สุกก่อนโดยใช้น้ำหางกะทิ มาทำการต้ม ที่เราต้องต้มไก่ให้สุกก่อน โดยใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไปด้วยเพื่อลดกลิ่นคาวของไก่ ที่เราต้องต้มไก่ให้สุกก่อนเพื่อให้เลือดไก่ แข็งตัว และ ออกมาจากการต้มก่อน จะช่วยทำให้น้ำต้มข่าไก่ของเราไม่ขุ่น มีสีขาวน่ารับประทาน หลังจากต้มไก่สุก แล้ว นำขึ้น และ นำเลือดไก่ที่เราเตรียมไว้ หั่นเป็นชิ้น และนำมาต้ม ให้ผ่านความร้อนอีกครั้ง โดยจะต้มประมาณ 3-5 นาที นำหางกะทิ ตั้งเตา หลังจากนั้นตามด้วย ข่า ตะไคร้ หอมแดง รากผักชี และใบมะกรูดลงไปต้ม หลังจากนั้น นำเนื้อไก่ที่ต้มไว้ ใส่ลงไปต้มกับน้ำหางกะทิ ได้เลย หลังจากนั้นตามด้วย หัวกะทิ และรอให้กะทิเดือด เมื่อกะทิเดือดเรียบร้อย ตามด้วยเห็ดนางฟ้า และ ปรุงรสชาติ ด้วย น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น ชิมรสชาติ ตามชอบได้เลย เมื่อได้รสชาติตามต้องการแล้ว ตามด้วยเลือดไก่ที่เราได้ทำการต้มไว้เรียบร้อยแล้ว และ รอให้น้ำกะทิเดือดอีกครั้ง และตามด้วยพริกขี้หนูทอด และพริกขี้หนูสวน และพริกจินดาสีแดง หลังจากนั้นทำการปิดแก๊ส และตามด้วย ผักชี ผักชีฝรั่ง และตามด้วย น้ำมะนาว เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว