แค่ได้ยินชื่อว่า แกงเขียวหวาน น้ำลายก็เริ่มสอแล้ว แกงไทย ในตระกูลนี้แตกต่างไปจากแกงกะทิชนิดอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดอันดับแรก เริ่มมจากสีของแกงอื่นจะมีสีแดงอมส้มหรือสีส้มอ่อนๆหรือสีแดงไปเลย แต่สำหรับแกงเขียวหวานเนี่ย ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าต้องมีสีเขียวอย่างแน่นอน สีของน้ำกะทิที่ออกมาอาจจะเป็นเพราะว่าออกมาตามสีของพริกที่ใช้ทำพริกแกง
แต่คนไทยเราเก่งสามารถพลิกแพลงแกงเขียวหวาให้น่ารับประทานได้ไม่จำเจ จากส่วนผสมหลักที่ใช้แกง เข่น แกงเขียวหวานไก่ แกงเขียวหวานหมู แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย วิธีการทำแกงเขียวหวานให้อร่อยสุดๆ หลักสำคัญก็เหมือนกับการทำแกงชนิดอื่นๆ ก็คือ อยู่ที่น้ำพริกแกง สิ่งสำคัญที่ตามมาก็คือกะทิ ที่จะต้องเป็นกะทิสดๆ แบบว่าเพิ่งขูดมะพร้าวกันเลยทีเดียว เครื่องปรุงและส่วนผสม เนื้อไก่ 300 กรัม มะเขือเปาะ 4-5 ลูก มะเขือพวง 1 กรัม พริกชี้ฟ้าสีแดง 2-3 เม็ด โหระพา 3 ต้น ใบมะกรูด 5 ใบ พริกแกงเขียวหวาน 3 ช้อนโต๊ะ หัวกะทิ และหางกะทิอย่างละ 1 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำแกงเขียวหวานไก่ ล้างเนื้อไก่ให้สะอาดและหั่นพอดีคำ ล้างมะเขือเปราะ ผ่าครึ่งหั่นเป็นชิ้นๆ และแช่น้ำเกลือไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีสำคล้ำ หรือดำ เด็ดมะเขือพวง และใบโหระพา ล้างให้สะอาด หั่นพริกชี้ฟ้าเฉียงๆ ให้เรียบร้อย ตั้งกระทะใส่หัวกะทิเคี่ยวให้กะทิพอเดือดและแตกมันเล็กน้อย จากนั้นก็ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดให้หอม พอผัดพริกแกงจนหอมได้ที่แล้วก็ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดพอสุก จากนั้นก็เติมหางกะทิลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาล คนให้เข้ากัน แล้วใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบมะกรูด ที่เราเตรียมไว้ ใส่ลงไปพร้อมกันต้มต่อไปจนมะเขือเปราะสุก ถ้าชอบแกงเขียวหวานที่มะเขือเปราะพอสุกแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลค่ะ ต่อจากนั้นปิดไฟและใส่ใบโหระพา กับพริกชี้ฟ้าสีแดงลงไปคนให้เข้ากัน